นักบำบัดคือใคร
นัก บำบัดคือบุคคลที่ได้รับการอบรมฝึกฝนเฉพาะทางเพื่อให้สามารถช่วยเหลือและ จัดการกับปัญหา
อารมณ์และความรู้สึกของผู้รับการบำบัด นักบำบัดมีหลากหลายและมาจากทุกกลุ่มในสังคม คุณอาจจะอยากรับคำปรึกษาจากนักบำบัดที่เหมือนหรือแตกต่างกับคุณในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเพศ เชื้อชาติ ตัวตนทางเพศ
ซึ่งเป็นสิทธิของคุณที่จะสามารถร้องขอให้ได้รับคำปรึกษาจากนักบำบัดในแบบที่ คุณต้องการได้อย่างเต็มที่
นักบำบัดจะต้องผ่านการอบรมฝึกฝนอะไรมาบ้าง
นัก บำบัดทุกคนจะต้องได้รับการฝึกฝนตามาตรฐานขององค์กรที่สังกัดเป็นสมาชิกอยู่
เป็นระยะเวลาอย่างต่ำ 2 ปี และอย่างต่ำ 4 ปี สำหรับนักบำบัดที่ให้บริการด้านจิตบำบัด ทุกคนจะต้องมีนักบำบัดมืออาชีพที่ผ่านการจดทะเบียนกับองค์กรที่เกี่ยวข้อง คอยดูแลและให้คำปรึกษา
คุณสามารถสอบถามนักบำบัดของคุณได้ว่าพวกเขาผ่านการอบรมมาจากที่ใดและเป็น สมาชิกขององค์กรด้านจิตวิทยาแห่งไหน ยกตัวอย่างเช่น หากเป็นนักบำบัดจากประเทศอังกฤษจะมี 2 องค์กรที่เกี่ยวข้องคือBACP และ UKCP.
ผู้ดูแลของนักบำบัดจะอยู่ร่วมในการบำบัดหรือไ
จะ ไม่มีผู้ดูแลเข้าร่วมในการบำบัดและพวกเขาจะไม่รู้ถึงตัวตนของคุณอีกด้วย
ข้อมูลในการบำบัดจะถูกเก็บเป็นความลับอย่างสูงสุด นักบำบัดจะพูดคุยกับผู้ดูแลเกี่ยวกับเรื่องที่กำลังทำอยู่เท่านั้น ก็สามารถลองเปลี่ยนวิธีได้เช่นกัน
การให้คำปรึกษา การบำบัดมีหลายประเภทหรือไม่
การ บำบัดมีหลายประเภท
มีตั้งแต่รูปแบบที่นักบำบัดเป็นผู้ดำเนินการอย่างเต็มที่ไปจนถึงแบบที่ผู้ รับการบำบัดได้ควบคุมทุกอย่าง ในการบำบัดบางประเภทอาจจะมีกิจกรรมอื่นๆร่วมด้วย ยกตัวอย่างเช่น
การพบปะผู้คนที่หลากหลายการใช้บทบาทสมมุติและการวาดภาพศิลปะ ตัวนักบำบัดเองก็มีหลากหลายรูปแบบ ดังนั้นคุณจึงสามารถเลือกเข้ารับคำปรึกษาในรูปแบบที่คุณสบายใจมากที่สุดทั้ง
จากตัวนักบำบัดและรูปแบบการบำบัด
การเข้ารับคำปรึกษาต้องมีค่าใช้จ่ายเท่าใด
ค่าใช้จ่ายจะแตกต่างกันออกไป ในบางครั้งองค์กรการกุศลหรือ NGO อาจ มีการจัดกิจกรรมที่ไม่เสียค่าใช้จ่าย เพื่อให้คำปรึกษาและการบำบัดแก่กลุ่มเป้าหมายที่เจาะจง ดังเช่น กลุ่มวัยรุ่น กลุ่มคนที่เป็นโรคที่โครงการระบุ
ชนกลุ่มน้อย กลุ่มคนที่สูญเสียคนที่รักไป เป็นต้น คุณยังสามารถปรึกษาแพทย์ของคุณให้แนะนำนักบำบัดให้ซึ่งในกรณีนี้อาจจะมีหรือ ไม่มีค่าใช้จ่ายก็เป็นได้
ส่วนค่าใช้จ่ายสำหรับการบำบัดส่วนบุคคลนั้นจะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยดังนั้น คุณควรสอบถามรายละเอียดเรื่องราคาก่อนที่จะตกลงนัดเวลาทุกครั้ง
6ระยะเวลาในการเข้ารับคำปรึกษานานเท่าใด
การ เข้ารับคำปรึกษาในแต่ละครั้งมักจะกินเวลาประมาณ 50 - 60 นาที โดยทั่วไปมักจะเป็นการนัดพบสัปดาห์ละครั้ง แต่คุณสามารถตกลงเพิ่มหรือลดเวลาได้ตามความจำเป็ นคุณ สามารถตกลงว่าจะให้มีการนัดทั้งหมดกี่ครั้ง
แต่มักจะมีการกำหนดจำนวนครั้งอย่างแน่นอนถ้าหากคุณเข้าร่วมโครงการให้คำ ปรึกษาจากองค์กรเพื่อการกุศลหรือได้รับการแนะนำจากแพทย์ของคุณ
การให้คำปรึกษาทางด้านจิตใจ (Counselling) กับจิตบำบัด
(Psychotherapy) แตกต่างกันอย่างไร
ใใน ทางปฏิบัติแล้วทั้ง
2 อย่าง มีความแตกต่างกันเพียงเล็กน้อย บางคนให้คำจำกัดความของการให้คำปรึกษาเป็นการให้ความช่วยเหลือในเรื่องที่ เฉพาะเจาะจง
ในขณะที่การจิตบำบัดจะเป็นการให้ความช่วยเหลือด้านจิตใจทั้งหมดอย่างต่อ เนื่อง บางคนอาจจะมีความเห็นว่าทั้ง 2 อย่าง แตกต่างกันเนื่องมาจากทฤษฎีสนับสนุนของแต่ละอย่าง การให้คำปรึกษามีรากฐานมาจากการให้ผู้รับการบำบัดเป็นศูนย์กลาง
ส่วนจิตบำบัดนั้นมีรากฐานมาจากการวิเคราะห์จิต
สามารถทดลองเข้ารับคำปรึกษาหรือการบำบัดก่อนที่จะตกลงนัดหมายเวลาจริงได้หรือไม่
นัก บำบัดส่วนมากก็อยากจะได้พบกับผู้ที่จะมาเข้ารับการบำบัดก่อนที่จะตัดสินใจ
ว่าควรจะต้องพบกันรวมทั้งสิ้นกี่ครั้ง โดยมักจะเรียกว่าเป็นการนัดเพื่อประเมินความต้องการ จึงเป็นโอกาสดีที่คุณจะได้ซักถามถึงข้อข้องใจต่างๆที่คุณมีและยังสามารถเล่า
ถึงเหตุผลที่ทำให้คุณต้องมาเข้ารับคำปรึกษาได้อีกด้วย คุณไม่ควรคิดว่าการนัดพบนี้เป็นการสัมภาษณ์หรือซักไซ้ไล่เรียงแต่ควรถือเป็น โอกาสที่คุณจะได้ประเมินว่านักบำบัดคนนั้นน่าจะเหมาะสมและช่วยเหลือในปัญหา
ของคุณได้หรือไม่ ซึ่งในขณะเดียวกันตัวนักบำบัดเองก็จะประเมินตนเองเช่นกันว่าจะสามารถให้ความ ช่วยเหลือในปัญหาของคุณได้หรือไม่ หากคุณตกลง ใจที่จะรับคำปรึกษาอย่างจริงจังต่อไปก็สามารถตกลงกันเรื่องจำนวน
ครั้งในการนัดพบครั้งนี้ได้ทันที
จะสามารถถามคำถามอะไรได้บ้าง
คุณ สามารถถามอะไรก็ได้ที่คุณสงสัย
อย่างไรก็ตามนักบำบัดเองก็อาจจะเลือกที่จะไม่ตอบในบางคำถามที่ค่อนข้างเป็น เรื่องส่วนตัวได้เช่นกัน ถ้าหากคุณอยากเข้ารับคำปรึกษากับนักบำบัดที่เป็นเพศเดียวกันหรือมีตัวตนทาง เพศแบบเดียวกัน
คุณควรจะสอบถามและบอกสิ่งที่คุณต้องการก่อนการนัดพบจริง
การรักษาความลับคืออะไร
จะ ไม่มีการนำเรื่องใดๆที่มีการพูดคุยกันในการบำบัดไปเผยแพร่หรือบอกต่ออย่าง เด็ดขาด
นักบำบัดทุกคนทำงานภายใต้ข้อกำหนดทางอาชีพที่ห้ามมิให้มีการนำข้อมูลใดๆของ ผู้มารับการบำบัดไปเผยแพร่ จะมีข้อยกเว้นในบางกรณีก็ต่อเมื่อนักบำบัดเชื่อว่าคุณมีแนวโน้มที่จะทำร้าย ตัวเองหรือผู้อื่น
แต่อย่างไรก็ตามมักจะมีการบอกคุณล่วงหน้าก่อน ในทางตรงกันข้ามคุณไม่จำเป็นต้องรักษาเรื่องราวในการมารับคำปรึกษาเ ป็นความลับ เนื่องจากข้อมูลต่างๆเป็นข้อมูลส่วนตัวของคุณ
และคุณมีสิทธิที่จะพูดถึงอย่างไรกับใครก็ได้
การเข้ารับคำปรึกษาจะทำให้รู้สึกดีขึ้นหรือไม่
การ เข้ารับคำปรึกษาอาจทำให้คุณเกิดความรู้สึกได้หลากหลาย
บางครั้งคุณอาจจะรู้สึกแย่มากกว่าช่วงก่อนที่จะเข้ารับคำปรึกษาก็เป็นได้ เนื่องจากคุณจะต้องนึกถึงเรื่องราวที่ก่อกวนจิตใจของคุณอีกครั้ง
แต่อย่างไรก็ตามคุณจะสามารถผ่านพ้นความรู้สึกนั้นไปได้จากการช่วยเหลือของ นักบำบัดที่จะทำให้คุณสามารถสังเกตเห็นและวิเคราะห์ปัญหานั้นเพื่อเรียนรู้ ที่จะรับมือหรือจัดการกับมัน
และรู้สึกดีขึ้นได้ในที่สุด
หากพลาดนัดจะต้องทำอย่างไร
จะ ไม่มีการชดเชยเวลาหากมีการพลาดนัดเกิดขึ้น หากคุณไม่สามารถมาพบกับนักบำบัดได้
คุณควรจะรีบแจ้งนักบำบัดของคุณโดยเร็วที่สุด หากคุณตัดสินใจที่จะไม่ไปพบนักบำบัดในบางสัปดาห์เนื่องจากคุณรู้สึกไม่สบาย ใจจากการนัดพบครั้งก่อนๆ คุณควรแจ้งนักบำบัดของคุณให้ทราบทันทีเช่นกัน
อย่างไรก็ตามควรมีการพูดคุยและทำการตกลงหากมีการพลาดนัดตั้งแต่ครั้งแรกที่ พบกับบักบำบัดของคุณ
หากต้องการจะยุติการรับคำปรึกษาจะต้องทำอย่างไร
การ บำบัดบางอย่างจะมีระยะเวลาที่แน่นอนเช่น 6 -12 สัปดาห์ซึ่งอาจมีการขยายเวลาออกไปอีก 6 – 12 สัปดาห์ ซึ่งอาจมีการขยายเวลาออกไปอีก สัปดาห์หากมีความจำเป็น คุณสามารถตกลงเรื่องจำนวนครั้งและเวลาในการเข้ารับคำปรึกษาได้ การทำเช่นนี้จะทำให้สามารถกำหนดได้ว่าการบำบัดจะสิ้นสุดลงเมื่อใด
แต่ในบางครั้งเมื่อการบำบัดเป็นแบบไม่มีกำหนดการสิ้นสุดคุณจะสามารถไปพบนัก บำบัดได้อย่างต่อเนื่องทุกสัปดาห์ หากคุณรู้สึกว่าการบำบัดสามารถยุติลงได้แล้ว คุณควรจะแจ้งนักบำบัดล่วงหน้า
เพื่อที่คุณทั้งคู่จะสามารถดำเนินการบำบัดไปในลักษณะที่กำลังจะสิ้นสุดลง และคุณจะได้คิดถึงสิ่งต่างๆที่คุณอาจต้องการความช่วยเหลือหลังจากสิ้นสุดการ บำบัดไปแล้ว
คุณไม่จำเป็นต้องรู้สึกผิดหากรู้สึกว่าสมควรแก่เวลาที่จะต้องหยุดการนัดพบ ผู้คนส่วนมากเมื่อหยุดการบำบัดไปชั่วระยะเวลาหนึ่งก็ยังสามารถกลับมารับคำ
ปรึกษาได้อีกหากมีความจำเป็นหรือมีความต้องการ
คำ ถามเหล่านี้คือคำถามที่เรามักจะได้รับจากผู้ที่มีความสนใจเข้ารับคำปรึกษา เราหวังว่าข้อมูลนี้จะสามารถตอบคำถามในใจของคุณได้เช่นกัน หากคุณมีข้อสงสัยอื่นๆหรือคาดว่าคำถามอื่นๆน่าจะเป็นประโยชน์แก่บุคคลทั่วไป ที่สนใจ คุณสามารถติดต่อเราโดยส่งอีเมล์มาได้ทุกเวลา จุดประสงค์ของเนื้อหาในส่วนนี้เพื่อจะให้ความรู้เรื่องของการให้คำปรึกษาและ จิตบำบัดแก่บุคคลทั่วไป เมื่อคุณอ่านจบแล้วตัดสินใจที่จะเข้ารับคำปรึกษาไม่ว่ากับที่ใดก็ตาม เราถือว่าเราได้บรรลุจุดมุ่งหมายของเราแล้ว คำตอบในส่วนนี้เขียนขึ้นแบบไม่เฉพาะเจาะจง ดังนั้นคุณอาจพบว่ามีนักบำบัดอื่นๆที่แตกต่างไปจากนี้ อย่างไรก็ตามเราหวังว่าคุณจะเลือกนัดพบกับนักบำบัดที่ทำให้คุณรู้สึกสบายใจ และรู้สึกพอดีกับคุณ คุณมีสิทธิที่จะไปพบกับนักบำบัดมากกว่า 1 คนก่อนที่จะตัดสินใจเข้ารับคำปรึกษากับคนใดคนหนึ่ง ขอบคุณที่มาเยี่ยมชมหน้าเวบไซต์ของเรา